ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับประเภทรูปที่เราจะเตรียมก่อนนำไปขายกันก่อน
ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ชุดด้วยกัน
1) รูป thumbnail
คือรูปเล็กๆ ที่โชว์ในหน้ารวมหลัก ที่รวมอยู่ในหน้าเวปซื้อขาย ซึ่งจะเห็นปะปนกับสินค้าตัวอื่นๆ เรียกง่ายๆว่ามีสินค้าคู่แข่งข้างๆรอบตัว
ในส่วนนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสื่อสารออกมาแบบ Single Message เพื่อให้ผู้ซื้อเห็นแล้ว เข้าใจสินค้าเราทันที่ โดยไม่ได้บอกอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันในเวลาเดียว เนื่องจากผู้บริโภคออนไลน์มีพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์
ซึ่งจะไม่อดทดเรียนรู้หรือสามารถมองข้างบางอย่างบนหน้าจอที่มันไม่กระจ่างชัดหรือสามารถตรึงให้เค้าเข้าไปสืบค้นต่อได้ เนื่องจากเค้ามีทางเลือกมากมายที่จะค้นคว้าและอำนาจอยู่ที่ปลายนิ้ว
Concept ของการเตรียมรูป thumbnail ก็คือ ทางที่ดีต้องพื้นหลังขาว เพื่อให้สินค้าชัดเจน
2) รูปสินค้าประกอบคำบรรยาย
ในส่วนนี้ เป็นรูปสินค้าที่ ที่ผู้ซื้อจะเห็นหลังจากคลิ๊กรูป thumbnail แล้ว ซึ่งโดยส่วนมากจะใช้ประกอบคำบรรยาย ซึ่งจะแบ่งเป็นรูป สินค้าแบบความละเอียดชัดเจน , ภาพแสดงการใช้งานให้เข้าใจว่าสินค้านี้ไว้ใช้ทำอะไร ,ขนาดของสินค้า บางครั้งใช้เปรียบเทียบกับสิ่งของมาตรฐานที่มีอยู่ทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น วางคู่กระป๋องน้ำอัดลม วางคู่กับไม้บรรทัด เพื่อให้กะประมาณการณ์ขนาดคร่าวๆได้
3) emotional picture
เป็นรูปที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อใช้สินค้านี้แล้วคุณจะรู้สึกอย่างไร เช่น สินค้าเครื่องออกกำลังการ ใช้แล้วล่ำ เครื่องสำอางค์ใช้แล้วสวย ของแต่งรถใช้แล้วรถแรง เป็นต้น
การใช้ภาพบน E-Commerce ก็ได้แบ่ง ตามลำดับขั้นของการซื้อของลูกค้าออกเป็นสองทางได้แก่
1) ทางใสสะอาดเพื่อความยั่งยืน (แนะนำ)
ให้ลูกค้าเห็นภาพสินค้าตามความเป็นจริง คือภาพรายละเอียดสินค้า จะมี 2 แบบ คือ emotional รูปถ่ายสวยงามจัดแต่งแสงสีและองค์ประกอบสวยงาม และ realistic คือรูปถ่ายสินค้าตรงๆ ทราบขนาด ด้วยแสงธรรมชาติ ไม่ปรับแต่งภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นของจริง ก่อนการติดสินใจ
ข้อดี ลูกค้าเห็นของในเวป และ ได้รับของ ตรงกัน (เป็นไปตามความต้องการ) และยั่งยืนเพราะมีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำ และแนะนำต่อ เพราะลูกค้าไม่ผิดหวังจากภาพที่เห็นในเวปและของจริงนั้นเหมือนกัน
ข้อเสีย หากตัวสินค้ามีจุดบกพร่้อง ลูกค้าก็จะเป็นตรงๆ และจำนวนผู้ซื้อก็อาจจะน้อยลงไปตามจุดบกพร่องที่เห็น
2) ทางสีเทา ไม่ถูกต้องตามจริง 100% (ไม่แนะนำให้ทำเป็นอย่างยิ่ง)
ผู้ขายบางรายทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำในโลกการขายสินค้าออนไลน์คือ ปรับแต่รูปให้สวยเกินจริง หรือตั้งใจให้ผู้บริโภคเข้าใจไม่ตรงกับความจริง เช่้นถ่ายให้ดูใหญ่เกินจริง ปรับแต่งสีสรรค์ หรือไม่ถ่ายให้ครบทั้งชิ้น ลีกเลี่ยงจุดที่เป็นข้อเสียของสินค้า โดยไม่บอกให้ผู้ซื้อทราบตามตรง
ข้อดี ดูเหมือนจะไม่มี เพราะหากลูกค้าหลงซื้อก็จะได้รับ feedback ไม่ดี
ข้อเสีย ไม่มีการซื้อซ้ำและโดน feedback ไม่ดี อาจโดนฟ้องบนเวปต่างๆ
ที่มาของภาพ ตลาดดอทคอม (TARAD.com)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น